“รองนายก ประเสริฐ” เร่งประกาศเขตควบคุมมลพิษในกทม.- 4 จว.ภาคเหนือ เดินหน้าจัดการปัญหาฝุ่น PM2.5
“รองนายก ประเสริฐ” เร่งประกาศเขตควบคุมมลพิษในกรุงเทพมหานคร และ 4 จังหวัดภาคเหนือ เดินหน้ามาตรการจัดการปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างเป็นระบบ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2568 ณ ห้องประชุม ชั้น 2 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ศูนย์ราชการ อาคาร C โดยนางชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัด ทส. ทำหน้าที่รองประธานกรรมการแทน รมว.ทส. และนายบรรณรักษ์ เสริมทอง เลขาธิการ สผ. นางกัญชลี นาวิกภูมิ รองอธิบดี คพ. ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการ ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
โดยที่ประชุมมีการเห็นชอบเรื่องที่สำคัญ2 เรื่อง ดังนี้
1.การประกาศกำหนดให้ท้องที่เขตกรุงเทพมหานครเป็นเขตควบคุมมลพิษ เพื่อรองรับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) และมลพิษทางอากาศที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาวและฤดูแล้ง โดยการประกาศดังกล่าวจะทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีอำนาจในการออกมาตรการเร่งด่วนและดำเนินการควบคุมมลพิษได้อย่างเป็นระบบซึ่งคาดว่าจะช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพและเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสิ่งแวดล้อม และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กรุงเทพมหานครกว่า 20,000 ล้านบาทต่อปี

2.การประกาศกำหนดให้ท้องที่เขตจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดลำพูน และจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นเขตควบคุมมลพิษเพื่อจัดการกับสถานการณ์หมอกควันและปัญหาฝุ่นควันจากไฟป่า การเผาในที่โล่ง และการคมนาคมขนส่ง ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง การประกาศดังกล่าวช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินมาตรการทั้งในเชิงป้องกันและแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สะท้อนถึงความพยายามในการประสานงานระหว่างส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่น เพื่อควบคุมฝุ่นละออง PM2.5 ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสมดุลระหว่างการคุ้มครองสุขภาพของประชาชนกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยว
รวมทั้งที่ประชุมยังได้เน้นย้ำการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกลาง หน่วยงานท้องถิ่น และภาคประชาชน เพื่อให้การดำเนินงานภายใต้พื้นที่ควบคุมมลพิษเกิดผลเป็นรูปธรรม เช่น การควบคุมการเผาในที่โล่ง การสนับสนุนการใช้เชื้อเพลิงสะอาด การติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศเพิ่มเติม และการประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องการประกาศทั้งสองฉบับนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศของประเทศไทยอย่างบูรณาการ ทั้งในเขตเมืองใหญ่และพื้นที่ภาคเหนือที่ประสบปัญหาซ้ำซาก
โดยมีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองสุขภาพของประชาชน ลดความเสี่ยงจากมลพิษทางอากาศ และสร้างความมั่นใจต่อการพัฒนาประเทศที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน