ข่าวสาร

”อนุทิน”นั่งนายกฯ คนที่ 32 พรรคประชาชนหนุน เพื่อไทยเผยชิงเดินเรื่องยุบสภาไปก่อนหน้านี้แล้ว!!

พรรคประชาชนมีมติหนุน “อนุทิน” นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 โดย “ภูมิใจไทย” ยอมรับ 5 เงื่อนไข ส่วนฟากเพื่อไทย “ภูมิธรรม” เผย ชิงยื่นทูลเกล้าฯ ไปก่อนหน้านี้ จากนี้ต้องรอลุ้นอะไรเกิดขึ้นก่อน “ยุบสภา-โหวตเลือกนายกฯ” 

ภายหลังนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน และคณะ แถลงถึงมติพรรค ระบุว่า หลังพูดคุยกับทั้ง 2 พรรค คือ พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย และได้พูดคุยกับสมาชิกอย่างละเอียดรอบคอบ ทางพรรคประชาชนจึงมีมติว่าจะโหวตนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป โดยพรรคภูมิใจไทย ต้องยอมตกลงเงื่อนไข ดังนี้ 1.นายกฯคนใหม่ต้องยุบสภาใน 4 เดือน 2.จัดทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3.ผลักดันเพื่อเปิดโอกาสให้มี สสร. 4.พรรคภูมิใจไทยต้องไม่ดำเนินการใดๆให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก 5.พรรคประชาชนจะไม่ร่วมในคณะรัฐมนตรี

ขณะที่ความเคลื่อนไหวจากฟากเพื่อไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีแกนนำคนสำคัญของพรรคอาทิ นายสรวงศ์ เทียนทอง ฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการยุบสภาของพรรค ล่าสุด นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้าทางการเมือง และการเตรียมการยุบสภาว่า “ขณะนี้สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ตนมองว่าระบบประชาธิปไตยบิดเบี้ยว ไม่เป็นครรลองที่ควรจะเกิด การตัดสินใจของพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชน ที่ตกลงกันว่าจะร่วมโหวตจัดตั้งรัฐบาล โดยประกาศว่าทางพรรคประชาชน จะโหวตให้กับพรรคภูมิใจไทย แต่ไม่ร่วมเป็นรัฐบาล อย่างไรก็เป็น 3 กลุ่มเหมือนเดิม พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้าน พรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ส่วนพรรคประชาชนก็มี 2 โหมดในตัวเอง คือทางฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีสิ่งนี้มาก่อน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการณ์นายกรัฐมนตรี

ในบรรยากาศการเมืองที่เป็นอยู่ มีการซื้อ สส. และดึง สส.ต่างๆ ซึ่งสับสนอลหม่าน ในสถานการณ์ที่เราดูอยู่ขณะนี้กับเศรษฐกิจต่างๆ ที่มีปัญหาก็เห็นว่าสิ่งที่สำคัญวันนี้ ถ้าไม่สามารถดึงความเชื่อมั่นเข้ามาสู่ประเทศได้ก็จะยิ่งทำให้ปัญหาเศรษฐกิจ ถูกกระทบและรุมเร้า โดยปัญหาทั้งหมดที่ได้คุยกัน ฝ่ายกฎหมายคิดว่าควรจะคืนอำนาจให้กับประชาชน ไปตัดสินใจแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของพระราชอำนาจ เพราะฉะนั้นไม่มีใครที่จะมีสิทธิ์ตัดสินใจ อยู่ที่พระบรมราชวินิจฉัย

และสถานการณ์ต่างๆ ตนในฐานะที่ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาและได้รวบรวมความคิดเห็น และคิดว่าควรจะมีการกราบบังคมทูลถวายสถานการณ์ต่างๆ ให้พระองค์ทราบ เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหานี้ ตนจึงตัดสินใจที่จะยื่นทูลเกล้าฯ ไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว (2 ก.ย.68) ซึ่งต้องรอกระบวนการตามประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ถ้าเป็นเช่นนี้พรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ก็ต้องไปพิจารณา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

ส่วนกรณีในระหว่างที่ทูลเกล้าฯ ไปแล้วจะสามารถขอสภาเปิดโหวตนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับเขาจะพิจารณาเดี่ยวต้องไปว่ากัน แต่ตนได้ทูลเกล้าฯ ไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *